วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฝันร้ายฝันอัศจรรย์ก่อนวันคริสต์มาส


    13 ตุลาคม ปี 2536 หนังเรื่อง The Nightmare Before Christmas ออกฉายครั้งแรกในอเมริกา ผมเข้าใจว่าในบ้านเราน่าจะได้ดูหนังเรื่องนี้ในปีเดียวกันหรือไม่ก็ปิดเทอมในปีถัดไป เพราะผมจำได้ว่าผมได้ดู The Nightmare Before Christmas ที่โรงหนังแม็คแคนนาตอนช่วงปิดเทอมที่มาฝึกงานอยู่ในกรุงเทพ ผมจำไม่ได้ว่าปรากฏการณ์ของหนังเรื่องนี้ในตอนนั้นเป็นอย่างไร มันดูเหมือนเป็นหนังที่ผมอยากดูมากๆเรื่องหนึ่งหลังจากติดตามข่าวสารหนังและได้เห็นตัวอย่างจากโรงภาพยนตร์ หนังน่าจะทำเงินในระดับหนึ่งตอนที่ออกฉาย แต่กระนั้น หนังเรื่องนี้ไม่ได้ฉายจบกันแล้วจบกันเลย เมื่อมันออกเป็นวิดีโอหรือถูกนำมาฉายซ้ำในบางแห่งของโลก โลกอันพิศดารของวันหยุดในหนังเรื่องนี้ได้ดูดผู้คนรุ่นใหม่ๆเข้าไปตะลึงพรึงเพริดกับมัน และมีผู้คนหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ สั่งสมมาจนถึงทุกวันนี้ ในปีนี้ ที่มันมีอายุครบ 10 ปีแล้ว
    The Nightmare Before Christmas เป็นเรื่องราวบอกเล่าถึงโลกในจินตนาการของเบอร์ตันที่เชื่อว่าวันหยุดเทศกาลต่างๆ มีเมืองและเรื่องราวเป็นของมันเอง และที่เมืองที่ชื่อว่าฮาโลวีนทาวน์ ที่นั่นมีผู้นำแจ็ค สเกลลิงตัน ราชาแห่งฟักทอง มนุษย์โครงกระดูกรูปร่างเรียวผอม ใส่สูทงานศพสีดำ ที่นำพาสมัครพรรคพวกสารพัดผีๆ ออกไปหลอกหลอนผู้คนเมื่อวันฮาโลวีนมาถึง แต่เจ้าตัวกลับเบื่อหน่ายแม้จะเป็นสิ่งที่มันทำให้ดีที่สุด เมื่อมันหลุดเข้าไปในโลกของวันคริสมาสต์และตื่นตาตื่นใจกับสีสันบบลูกกวาดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยงานรื่นเริง เจ้าแจ็คก็คิดจะแย่งงานของซานตาคลอสมาทำ สิ่งที่ตามมาก็คือความวุ่นวายเพราะแจ็คถนัดแต่เรื่องหลอกหลอน บรรยากาศของคริสต์มาสจึงผสมไปด้วยฮาโลวีน แต่โชคดีที่แจ็คมีแซลลี่ ซอบบี้สาวที่เก่งเรื่องเย็บปักถักร้อยเพราะต้องนั่งเย็บต่อแขนขาของตัวเองที่หลุดอยู่ประจำ คอยเตือนเขาและช่วยเหลือเขา ปัญหาต่างๆจึงคลี่คลายไปได้
    โลกวันหยุดในหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นโดยเทคนิคการสร้างอนิเมชั่นที่มีมาตั้งแต่ยุคแรกๆที่โลกภาพยนตร์มีคำว่า special effects นั่นก็คือการใช้เทคนิคของสต๊อปโมชั่น ทีมงานใช้หุ่นดินเหนียวและหุ่นจากวัสดุอื่นๆ สร้างขึ้นมาเป็นตัวละคร และขยับมันทีละนิดๆ เพื่อถ่ายทีละเฟรมๆอย่างอดทน ทำให้โลกในหนังดูมีมิติและความลึก และเอื้อประโยชน์ให้สามารถสร้างตัวละครพิศดารมากมายให้ดูมีชีวิตชีวากว่าอนิเมชั่นสองมิติทั่วไป แต่แม้จะเป็นเทคนิคแบบโบราณ แต่ภาพที่ออกมาก็ดูมีความสด แปลกใหม่ และโดดเด่นจนถึงทุกวันนี้ ผมคิดว่ายังไม่มีงานอนิเมชั่นจากสต๊อปโมชั่นเรื่องไหนทำได้ดีไปกว่า หนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาเทคนิคพิเศษ แต่น่าเสียดายที่พ่ายให้กับหนังเรื่อง The Jurassic Park ที่ออกฉายในปีเดียวกันซึ่งเป็นหนังที่โดดเด่นด้านเทคนิคพิเศษอย่างมากในปีนั้น

    มนตร์ขลังอีกอย่างหนึ่งของหนังก็คือเพลงและดนตรีประกอบที่ประพันธ์โดยแดนนี่ เอลฟ์แมน ซึ่งเขาก็เป็นผู้ให้เสียงแก่แจ็คตอนที่แจ็คร้องเพลงด้วย ได้เสริมความสนุกให้กับหนังและสร้างบรรยากาศพิศดารได้ดียิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชมหลงใหลหนังเรื่องนี้ได้มากที่สุดก็คงเป็นจินตนาการของผู้กำกับและทีมสร้างเอง ในการสร้างโลกของวันหยุดที่อัศจรรย์ ตัวละครที่มีสีสันและโดดเด่นเฉพาะตัว เช่นนายกเทศมนตรีที่หนุนเปลี่ยนหน้าไปมาเวลาเปลี่ยนอารมณ์, เจ้าบูกี้แมน อูกี้บูกี้ ตัวร้ายที่เป็นถุงกระสอบ เจ้าสามเด็กแสบล็อค ช็อค และแบเรล หรือแม้แต่ซานต้าตัวอ้วนสีแดงขาว 
    The Nightmare Before Christmas เป็นหนึ่งในหนังที่ผมดูได้เรื่อยๆ และปล่อยใจหลุดลอยเข้าไปในโลกอันอัศจรรย์ของวันหยุดจนไม่รู้แล้วว่ากี่ครั้ง หรือแม้แต่ยามที่เราได้ฟังเพลง ฉากประทับใจต่างๆก็ยังแวบเข้ามาในหัวให้อมยิ้มได้อยู่เสมอ ความประทับใจอาจน้อยลงไปบ้างเมื่อได้ดูอีกในครั้งหลังๆ แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่ดูใหม่และมีเสน่ห์แม้ผ่านสิบปีแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น